รายงานสถานการณ์ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)<br>เรื่อง พระราชกำหนดว่าด้วยการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2563 วันที่ 24 เมษายน 2563

editor image

รายงานสถานการณ์ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)

เรื่อง พระราชกำหนดว่าด้วยการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2563 วันที่ 24 เมษายน 2563


    สถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด 19 ซึ่งประชาชนทุกคนต้องเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เพื่อลดการระบาดของโรค ทำให้การปฏิบัติงานของภาครัฐและเอกชนเกือบทุกภาคส่วนได้รับผลกระทบ เพื่อให้กิจการของทั้งภาครัฐและเอกชนดำเนินต่อไปได้โดยสะดวกราบรื่น ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 74/2557 เรื่องการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่  27  มิถุนายน  พ.ศ. 2557  มีหลักเกณฑ์ที่ไม่สอดคล้องกับสภาพการทำงานและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน  จึงมีการตราพระราชกำหนดว่าด้วยการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2563 ซึ่งมีสาระสำคัญดังนี้

    1. การประชุมใดๆ ที่กฎหมายกำหนดให้ต้องมีการประชุม สามารถประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้ ยกเว้น

        1.1) การประชุมของสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และรัฐสภา

        1.2) การพิจารณาและพิพากษาคดีของศาล

        1.3) การประชุมเพื่อดำเนินการตามกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของส่วนราชการ ราชการส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และหน่วยงานอื่นของรัฐ

        1.4) การประชุมอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

    2. ผู้เข้าร่วมประชุม ไม่ได้อยู่ในสถานที่เดียวกัน และสามารถประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้ทั้งในและนอกราชอาณาจักร โดยต้องแสดงตนเข้าร่วมประชุมต่อที่ประชุม

    3. หนังสือเชิญประชุม และเอกสารประกอบการประชุม สามารถส่งถึงผู้ร่วมประชุมแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ โดยผู้มีหน้าที่จัดประชุมต้องเก็บสำเนาหนังสือเชิญประชุมและเอกสารประกอบการประชุมไว้เป็นหลักฐาน

    4. ผู้จัดให้มีการประชุม ต้องจัดการดังนี้

        4.1) ให้ผู้ร่วมประชุมแสดงตนก่อนการร่วมประชุม

        4.2) ให้ผู้ร่วมประชุมลงคะแนนได้ทั้งโดยเปิดเผยและโดยลับ

        4.3) จัดทำรายงานการประชุมเป็นหนังสือ

        4.4) บันทึกทั้งเสียงและภาพของผู้ร่วมประชุมทุกคน เว้นแต่เป็นการประชุมลับ

        4.5) จัดเก็บข้อมูลของผู้ร่วมประชุมทุกคนไว้เป็นหลักฐาน

    5. สื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ประชุม ต้องมีคุณสมบัติดังนี้

        5.1) ผู้เข้าร่วมประชุมสื่อสารถึงกันได้ด้วยเสียง หรือทั้งเสียงและภาพ

        5.2) ผู้เข้าร่วมประชุมสื่อสารกันได้ทั้งสองทาง

        5.3) มีอุปกรณ์เชื่อมโยงหรือแปลงสัญญาณเสียง หรือทั้งเสียงและภาพที่เหมาะสม

        5.4) ประธานในที่ประชุมหรือผู้ควบคุมการประชุมสามารถตัดสัญญาณเสียงหรือภาพหรือหยุดการส่งข้อมูลในการประชุมได้

    6. การเบิกจ่ายเบี้ยประชุม หรือค่าตอบแทน ให้จ่ายแก่ผู้ร่วมประชุมที่แสดงตนเข้าร่วมประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

พระราชกำหนดนี้ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2563

อ้างอิง http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2563/A/030/T_0020.PDF


###

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์ระบาดของเชื้อโรคโควิด 19 จากองค์การอนามัยโลก

https://www.who.int/thailand/emergencies/novel-coronavirus-2019/situation-reports

ศูนย์ข้อมูลกรมควบคุมโรคติดต่อ โทร 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง

https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/eng/news.php

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ โทร +66 (0) 2694 6000

https://www.businesseventsthailand.com/en/situation-update-coronavirus-covid-19  หรือ info@tceb.or.th

แชร์บทความ