Metaverse x MICE โลกเสมือนแบบ 3 มิติ ที่จะพลิกโฉม MICE ในอนาคต

หลังจากมีกระแสการเปลี่ยนแปลงของบริษัทสังคมออนไลน์ยักษ์ใหญ่อย่าง Facebook ที่เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Meta เพื่อตอบรับกระแส Metaverse ที่กำลังมาแรงในขณะนี้ หลายคนอาจสงสัยว่า Metaverse คืออะไร และจะเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไมซ์อย่างไร มาร่วมหาคำตอบกันได้ในบทความนี้   

Metaverse คือแนวคิดในการผสานสภาพแวดล้อมของโลกแห่งความจริงและเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน กลายเป็นโลกเสมือนจริงที่สามารถโต้ตอบและมีปฏิสัมพันธ์กันได้ โดยในโลกเสมือนจริงนี้เราจะสามารถชมคอนเสิร์ตในฮอลล์ ออกไปเที่ยวกับเพื่อน เลือกซื้อและได้ลองสัมผัสสินค้าในงานแสดงสินค้า และเข้าร่วมกิจกรรมเวิร์กชอปที่มีส่วนร่วมได้จริง ซึ่งไม่ใช่แค่การพูดคุยสนทนาหรือโต้ตอบผ่าน Video Call ที่เห็นภาพ 2มิติเท่านั้น แต่ Metaverse จะทำให้เรารู้สึกเหมือนได้ออกไปใช้ชีวิตข้างนอกจริง ๆ ทั้งที่ตัวยังอยู่ในบ้าน

ดังนั้น จึงปฏิเสธไม่ได้เลยหาก Metaverse สามารถเกิดขึ้นจริงได้อย่างสมบูรณ์แบบ จะส่งผลต่อการใช้ชีวิตของผู้คน รวมถึงอุตสาหกรรมไมซ์ที่ต้องมีการพัฒนาและปรับตัวเองให้ทันต่อกระแสโลกสามมิติที่อาจจะเกิดขึ้นในไม่ช้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งตัวอย่างของการนำ Metaverse มาผสานกับไมซ์ กลายเป็นนวัตกรรมยุคใหม่ที่จะช่วยพลิกโฉมวงการไมซ์มีดังนี้ 

ร่วมโต๊ะประชุมสัมมนาได้จากทุกที่

ในอนาคตอีก 5 ปี 10 ปี หรือเร็วกว่านั้น Metaverse อาจทำให้ผู้คนที่อยู่ห่างไกลกัน สามารถทำกิจกรรมร่วมกันได้เหมือนอยู่ในที่เดียวกัน ซึ่งจุดนี้จะพลิกโฉมอุตสาหกรรมไมซ์ด้วยการลดเวลาและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ลงได้ ด้วยการที่เหล่านักเดินทางไมซ์อาจไม่ต้องใช้เวลากับการเดินทางไกลเพื่อร่วมประชุมสัมมนา แต่เปลี่ยนเป็นนั่งอยู่ที่บ้านพร้อมกับอุปกรณ์ไม่กี่ชิ้นในการเชื่อมต่อกับโลกเสมือนแบบ 3 มิติ ก็สามารถไปนั่งร่วมโต๊ะประชุม นั่งฟังเสวนาในงานสัมนนา หรือร่วมชมคอนเสิร์ตของศิลปินคนโปรดพร้อมโยกตัวสนุกไปกับเสียงเพลงได้แบบไม่อายใคร เปรียบเสมือนได้อยู่บนพื้นที่จัดงานนั้นจริง ๆ 

นิทรรศการและงานแสดงสินค้าในโลก 3 มิติ

เมื่อไม่นานมานี้ สตาร์ทอัพสัญชาติญี่ปุ่นได้พลิกโฉมวงการงานจัดนิทรรศการและงานแสดงสินค้า ด้วยการจัดงานแบบ Virtual Market ผ่านโลก VR ซึ่งได้กระแสตอบรับเป็นอย่างดี มีบริษัทชื่อดังเข้าร่วมแสดงสินค้ากว่า 60 ราย และทางผู้จัดงานได้เปิดให้ผู้ชมเข้าร่วมงานได้ฟรีผ่านการใช้แว่น VR และแอปพลิเคชัน VRChat ซึ่งนับว่าเป็นการปรับตัวของวงการไมซ์เข้าสู่ Metaverse ได้เป็นอย่างดี คาดว่าในอนาคตการจัดงานนิทรรศการและงานแสดงสินค้าในโลก Metaverse ได้สมจริงยิ่งกว่า Virtual Event ในปัจจุบัน เพราะผู้เข้าร่วมงานจะสัมผัสและทดลองสินค้าได้เหมือนจริง ซึ่งจะสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ทั้งผู้จัดงานและผู้เข้าร่วมงานได้แน่นอน  

ท่องเที่ยวจากที่บ้าน เหมือนได้ไปเยือนสถานที่จริง

การมี Metaverse ที่ทำให้คนสามารถออกไปใช้ชีวิตข้างนอกได้ โดยอาศัยการเชื่อมต่อผ่านอุปกรณ์ ซอฟต์แวร์ และอินเทอร์เน็ต นำมาสู่ความหวังของการเปลี่ยนแปลงการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ในอนาคตที่ผู้คนจะสามารถไปเยือนสถานที่ต่าง ๆ ได้โดยที่ตัวยังอยู่ในบ้าน โดยเฉพาะในยามที่เกิดสถานการณ์ไม่ปกติอย่างการแพร่ระบาดของโรคอุบัติใหม่ ตัวอย่างล่าสุดที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักท่องเที่ยวก็คือ บริษัทการรถไฟของญี่ปุ่นอย่าง JR East ได้สร้างสถานีรถไฟ Akihabara ที่ผู้ใช้สามารถใช้บัตรในโลกเสมือนขึ้นรถไฟไปสัมผัสประสบการณ์การเดินทางและบริการของบริษัทได้ผ่านเทคโนโลยี VR  ในอนาคตถ้า Metaverse สามารถผนวกสิ่งแวดล้อมเข้ากับเทคโนโลยีได้อย่างสมบูรณ์ รับรองได้เลยว่า เราจะได้รับประสบการณ์แบบเต็มพิกัดมากกว่าเดิม ทั้งด้านสัมผัสและความรู้สึกที่ราวกับว่าได้นั่งอยู่บนรถไฟจริง ๆ

ก่อนที่จะเข้าสู่โลกของ Metaverse ผู้ใช้ต้องเตรียมพร้อมทั้งทางด้านอุปกรณ์และระบบที่รองรับการใช้งานให้สามารถใช้ได้อย่างไหลลื่นทั้งอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เครื่องมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะอุปกรณ์ AR (Augmented Reality) ที่ช่วยจำลองวัตถุ 3 มิติผ่านแว่นตา จอภาพ จอสมาร์ทโฟน และ VR (Virtual Reality) เทคโนโลยีจำลองโลกเสมือนที่โต้ตอบได้ผ่านอุปกรณ์ใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต 

การเตรียมตัวตั้งรับเข้าสู่สังคม Metaverse ถือว่าเป็นเรื่องที่หลายอุตสาหกรรมให้ความสำคัญ รวมถึงอุตสาหกรรมไมซ์ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้สามารถตอบรับเทรนด์การบริโภคของคนที่จะเปลี่ยนไปใช้ชีวิตบนโลก 3 มิติมากยิ่งขึ้นในอนาคต ซึ่งจากตัวอย่างที่ยกมานั้น ทำให้เรารู้ว่า Metaverse จะพลิกโฉมวงการไมซ์ให้ทันสมัย ซึ่งทั้งผู้จัดงานและผู้เข้าร่วมงานจะได้รับประสบการณ์ใหม่ที่ไม่เหมือนเดิมอย่างแน่นอน